เมนูอาหาร เพื่อสุขภาพ มีอะไรบ้าง

ตารางลดน้ำหนัก เห็นผลจริง 2022

ตารางลดน้ำหนัก เห็นผลจริง 2022 ใครที่กำลังมองหาอาหารลดน้ำหนักเพื่อควบคุมอาหารและเบื่อเมนูเดิม ๆ วันนี้มีเมนูลดน้ำหนักมาแจกค่ะ เรามีเมนูลดน้ำหนักอื่นๆที่ไม่ใช่แค่เมนูธรรมดา แต่เราวางเป็นแผน 30 วัน แคลต่ำ กินได้ทุกมื้อ ไม่อด ไม่ต้องทนหิว แถมมีของว่างระหว่างวัน ใครที่กำลังควบคุมอาหารอยู่ แต่จะให้ดีแนะนำให้ใช้ตารางออกกำลังกายลดน้ำหนักควบคู่ไปด้วยจะเห็นผล! ซึ่งเราต้องเข้าใจก่อนว่าการลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารนั้นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญมากๆ ก็คือ “การนับแคลอรี่”

แคลอรี่คืออะไร? ต้องเผาผลาญพลังงานเท่าไหร่เพื่อลดน้ำหนัก?
หลายคนที่ควบคุมน้ำหนักและกำลังศึกษาข้อมูลอยู่ คุณคงเคยเห็นคำนี้ค่อนข้างบ่อย แคลอรี่เป็นหน่วยวัดพลังงาน โดยพลังงานที่ร่างกายใช้ไปเรียกว่า “กิโลแคลอรี” ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายเราต้องการพลังงาน 25 กิโลแคลอรีต่อ “น้ำหนักตัวเอง 1 กก.” หมายความว่าถ้าเราหนัก 50 กก. พลังงานที่เราต้องได้รับคือ 1,250 นั่นเอง*

แต่…ทำไมบางข้อมูลถึงบอกว่าเราควรได้รับพลังงานเฉลี่ย 2,000-2,500 แคลอรีต่อวัน?

ยังคงเป็นความจริงที่ว่าร่างกายของเราต้องได้รับพลังงานต่อวัน คือ 25 กิโลแคลอรี x น้ำหนักตัว แต่เป็นพลังงาน “ขั้นต่ำ” เท่านั้น เพราะบางคนต้องมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น เดินขึ้นลงบันได วิ่ง นั่งทำงาน ออกกำลังกายด้วยการยกแขนและขาไปมา เขาจึงเฉลี่ยพลังงานที่เราควรจะได้รับ ซึ่งมากกว่า 2,000

ทำไมการลดน้ำหนักด้วยการนับแคลอรี่ถึงช่วยลดน้ำหนักได้?
การลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร คือการควบคุมพลังงานที่ได้รับต่อวันให้พอดีขั้นต่ำ เพื่อให้ร่างกายนำไขมันไปใช้เผาผลาญเป็นพลังงานสำหรับกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมากเป็นพิเศษ ดังนั้น หากเราต้องการลดน้ำหนัก เราก็ต้องทำกิจกรรมเพื่อเผาผลาญแคลอรี ได้รับ 300-500 kcal มากกว่าที่คุณกิน (พอดีๆ) ให้พลังงานเพียงพอที่ร่างกายได้รับน้อยกว่าที่เผาผลาญ ร่างกายของเราจะถูก “บังคับ” ให้เอา “ไขมันในร่างกาย” ออกมาใช้แทน กิโลแคลอรีที่เผาผลาญไป 7,700 จะสามารถลดน้ำหนักได้ 1 กิโลกรัม

นั่นหมายความว่า หากสาวๆ ใช้พลังงานมากกว่าที่ได้รับต่อวัน 500 กิโลแคลอรี ภายใน 1 สัปดาห์ จะเผาผลาญได้ถึง 3,500 กิโลแคลอรี คิดเป็นน้ำหนัก 0.4-0.5 กก.

และสูตรอาหารที่เรานำมาฝากในตารางต่อไปนี้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ โดยจัดตามกิโลแคลอรีที่เราต้องได้รับขั้นต่ำต่อวัน (บวกลบนิดหน่อย) มาดูกัน >>>

ตารางลดน้ำหนัก สัปดาห์ที่ 1

มาเริ่มควบคุมอาหาร ลดน้ำหนัก ด้วยการกินเมนูอาหารไดเอทในสัปดาห์แรกกันเถอะ เราจะเน้นเมนูอกไก่ก่อน เพราะอกไก่นอกจากจะอิ่ม สบายท้องแล้ว ยังเป็นอาหารไดเอทที่ช่วยเพิ่มโปรตีน สำหรับสร้างกล้ามเนื้อด้วย ส่วนขนม เราจะเน้นไปที่ผลไม้ แต่เป็นแบบที่ไม่หวานนะ เพราะถ้าหวานมากไปก็จะมีน้ำตาลมากตามไปด้วย ใครที่ไม่ชินกับการงดของหวาน ต้องอดทน ร่างกายจะค่อยๆ ปรับตัวได้เอง

รายละเอียดแคลอรี่ในแต่ละเมนู (โดยประมาณ)

  • วันที่ 1 เช้า : โจ๊กข้าวโอ๊ตกับอกไก่สับและผัก (160 กิโลแคลอรี) น้ำส้ม 1 แก้ว (40 กิโลแคลอรี)
    มื้อกลางวัน ลาบไก่ (250 kcal) ข้าวไรซ์เบอรี่ (200 kcal)
    ระหว่างวัน : แอปเปิ้ล (80 กิโลแคลอรี) โยเกิร์ตไขมันต่ำ (60 กิโลแคลอรี)
    อาหารเย็น: สุกี้ยากี้อกไก่ใส่ผักเยอะๆ (350 kcal)
  • วันที่ 2 เช้า: ขนมปังโฮลวีตกับอะโวคาโดบด (220 กิโลแคลอรี) ไข่ดาว (160 กิโลแคลอรี) นมพร่องมันเนย (70 กิโลแคลอรี)
    มื้อกลางวัน : ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกหมูไม่ผัดกระเทียมใส่ผัก (350 kcal)
    ระหว่างวัน : น้ำผลไม้ (80 kcal) ไข่ต้ม (80 kcal)
    อาหารเย็น: สลัดอกไก่ น้ำสลัดโยเกิร์ต (100 kcal)
  • วันที่ 3 เช้า: กราโนล่า 1 ถ้วย (150 กิโลแคลอรี) กล้วย (150 กิโลแคลอรี) นมอัลมอนด์ (100 กิโลแคลอรี)
    มื้อกลางวัน: กะเพราอกไก่ (250 kcal), ข้าวไรซ์เบอรี่ (200 kcal)
    ระหว่างวัน : น้ำผลไม้ (80 kcal) ไข่ต้ม (80 kcal)
    อาหารเย็น : ซุปหมูไม่ทอดกระเทียม (150 kcal)
  • วันที่ 4 เช้า ข้าวกล้อง ไข่เจียวไม่ใส่น้ำมัน (250 กิโลแคลอรี) น้ำผลไม้ (80 กิโลแคลอรี)
    อาหารกลางวัน: ส้มตำ (80 kcal), อกไก่ย่าง (200 kcal), ข้าวเหนียวดำ (100 kcal)
    ระหว่างวัน : ชาไม่มีน้ำตาล (50 กิโลแคลอรี), แอปเปิ้ล (80 กิโลแคลอรี)
    อาหารเย็น : สลัดปลาย่าง (200 kcal) ไข่ต้ม (80 kcal)
  • วันที่ 5 เช้า: ขนมปังโฮลวีต 2 แผ่นกับเนยถั่ว (500 กิโลแคลอรี) ผลไม้ที่ชอบ (100 กิโลแคลอรี) นมพร่องมันเนย (70 กิโลแคลอรี)
    มื้อกลางวัน: ฟักทองกับไข่ (110 Kcal) ข้าวกล้อง (110 Kcal) ไข่ต้ม (80 Kcal)
    ตอนกลางวัน : ข้าวโพดต้มกับมะพร้าวไม่ใส่น้ำตาล (160 kcal)
    อาหารเย็น: ยำวุ้นเส้นกับผัก (160 kcal)
  • วันที่ 6 เช้า : ข้าวกล้องต้มกับผักและปลาแห้ง (250 kcal)
    อาหารกลางวัน: ปลาทูย่าง (135 kcal), น้ำพริกกะปิ (100 kcal), ไข่ต้ม (80 kcal), ข้าวสวย (60 kcal)
    ระหว่างวัน : กล้วยปิ้ง 2 ลูก (180 kcal)
    อาหารเย็น : ไข่ลวก 2 ฟองกับอกไก่ (320 kcal) ข้าวสวย (60 kcal)
  • วันที่ 7 เช้า: ขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น (250 กิโลแคลอรี) ไข่คน 2 ฟอง (200 กิโลแคลอรี) น้ำส้ม 1 แก้ว (40 กิโลแคลอรี)
    อาหารกลางวัน: สุกี้หมูกับผัก (250 กิโลแคลอรี) ผลไม้ (100 กิโลแคลอรี)
    ระหว่างวัน : ผลไม้รสไม่หวาน (80 kcal)
    ตอนเย็น: โจ๊กไข่ขาวเห็ดหอมและแครอท (190 กิโลแคลอรี) 

ตารางลดน้ำหนัก สัปดาห์ที่ 2

สัปดาห์ที่ 2 มีแต่เมนูลดน้ำหนักอร่อยๆ เช่น ยำเห็ดรวม สเต๊กไก่เทอริยากิ ข้าวหมูแดง ปลาตุ๋น และอื่นๆอีกมากมาย อาหารลดน้ำหนักไม่ได้หมายความว่าจะมีแต่อาหารแย่ๆ เพราะเราเลือกกินหรือทำอาหารคลีนอร่อยๆ กินเองได้! เน้นไม่ให้ปรุงมาก และ ก็เช่นเดียวกัน พยายามอย่าทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง นมถั่วเหลือง ถั่วเหลือง ควรเลือกแบบไม่มีน้ำตาล

รายละเอียดแคลอรี่ในแต่ละเมนู (โดยประมาณ)

  • วันที่ 8 เช้า: นมถั่วเหลืองไม่ใส่น้ำตาล (70 กิโลแคลอรี) ไข่ต้ม 2 ฟอง (160 กิโลแคลอรี) ขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น (250 กิโลแคลอรี)
    อาหารกลางวัน: แกงจืดเต้าหู้มีทบอล (280 กิโลแคลอรี) ข้าวกล้อง (110 กิโลแคลอรี)
    ระหว่างวัน: ถั่วลิสงอบเกลือ 1 ซอง (200 กิโลแคลอรี)
    อาหารเย็น : อกไก่ย่างซอสเทอริยากิ (200 kcal) สลัดผัก (100 kcal)
  • วันที่ 9 เช้า: โยเกิร์ตไขมันต่ำพร้อมผลไม้และน้ำผึ้ง (200 กิโลแคลอรี)
    มื้อกลางวัน ข้าวอกไก่ (550 kcal) ซุปใส (100 kcal)
    ระหว่างวัน: ผลไม้ตามชอบ (100 kcal)
    อาหารเย็น: สลัดเห็ดรวม (160 กิโลแคลอรี) นมไขมันต่ำ (70 กิโลแคลอรี)
  • วันที่ 10 เช้า : แกงจืดเต้าหู้หมูสับ (150 kcal) ข้าวกล้อง (110 kcal)
    อาหารกลางวัน: สปาเก็ตตี้ข้าวสาลีกับอกไก่ (550 กิโลแคลอรี)
    ระหว่างวัน : นมเปรี้ยวไขมันต่ำ (55 กิโลแคลอรี) ผลไม้ (100 กิโลแคลอรี)
    อาหารเย็น: สลัดไข่ต้ม 1 ฟอง (100 กิโลแคลอรี) นมถั่วเหลือง (100 กิโลแคลอรี)
  • วันที่ 11 เช้า: แซนวิชทูน่า มายองเนสไขมันต่ำ (180 กิโลแคลอรี) น้ำส้ม (40 กิโลแคลอรี)
    อาหารกลางวัน: อกไก่และผักสด (300 กิโลแคลอรี) ข้าวกล้อง (110 กิโลแคลอรี)
    ตอนกลางวัน : มันทิพย์ปิ้ง 3 ลูก (300 kcal)
    อาหารเย็น : สลัดผัก (100 kcal) ไข่ต้ม 2 ฟอง (160 kcal)
  • วันที่ 12 เช้า: เฟรนช์โทสต์คลีน 2 แผ่น (550 กิโลแคลอรี) นมพร่องมันเนย (70 กิโลแคลอรี)
    อาหารกลางวัน: ผัดผักกับกุ้ง (200 kcal) ข้าวกล้อง (110 kcal)
    ระหว่างวัน : สมูทตี้ (100 kcal)
    อาหารเย็น: ปลาต้ม (170 กิโลแคลอรี) ผักต้ม (70 กิโลแคลอรี) ข้าวสวย (60 กิโลแคลอรี)
  • วันที่ 13 เช้า : ต้มเลือดหมูไม่ใส่กระเทียม (150 kcal) ข้าวกล้อง (110 kcal)
    อาหารกลางวัน: สเต็กไก่เทอริยากิ (350 กิโลแคลอรี), ผักนึ่ง (70 กิโลแคลอรี)
    ระหว่างวัน : กล้วยตากแดดเดียว 1 ลูก (60 กิโลแคลอรี) น้ำมะพร้าว (20 กิโลแคลอรี)
    มื้อเย็น สลัดผลไม้ (120 kcal) นมสด 1 กล่อง (170 kcal)
  • วันที่ 14 เช้า : สมูทตี้ผลไม้รวม กล้วย สตรอว์เบอร์รี สับปะรด นมสด โยเกิร์ต (200 kcal)
    มื้อกลางวัน : ข้าวหมูแดง แยกน้ำราด ไม่ใส่หมูกรอบ ไม่ใส่กุนเชียง (500 kcal)
    ระหว่างวัน : เต้าหู้ น้ำขิง หรือ นมจืด (150 kcal)
    อาหารเย็น: นมถั่วเหลืองไม่มีเครื่องเทศไม่มีน้ำตาล (70 กิโลแคลอรี) ไข่ต้ม 2 ฟอง (160 กิโลแคลอรี)

ตารางลดน้ำหนัก สัปดาห์ที่ 3

อาหารสัปดาห์นี้บอกเลยว่ามีแต่เมนูลดน้ำหนักอร่อยๆ ฉันชอบพวกเขาจริงๆ ส้มตำไก่ย่าง แกงเผ็ดกุ้ง เมี่ยงปลาเผา หรือแม้แต่ตำข้าวโพด อร่อยทุกอย่าง ใครว่าอาหารลดน้ำหนักจืดชืด? เห็นเมนูแล้วบอกเลยว่าไม่จริง คือกินได้ทุกอย่างแต่ต้องเลือกวัตถุดิบและทำอาหารคลีนให้ได้ฝึกฝีมือทำอาหารไปด้วย

รายละเอียดแคลอรี่ในแต่ละเมนู (โดยประมาณ)

  • วันที่ 15 เช้า: กล้วยปิ้ง 2 ลูก (180 กิโลแคลอรี) ไข่ต้ม 1 ฟอง (80 กิโลแคลอรี) นมถั่วเหลือง 1 กล่อง (100 กิโลแคลอรี)
    มื้อกลางวัน : ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส ผักเสริม ไม่ใส่กระเทียมเจียว (300 kcal)
    ระหว่างวัน: ยำสาหร่ายญี่ปุ่น (100 กิโลแคลอรี), นมพร่องมันเนย (70 กิโลแคลอรี)
    อาหารเย็น : ส้มตำ (80 kcal), อกไก่ย่าง (200 kcal)
  • วันที่ 16 เช้า : แกงจืดวุ้นเส้นไข่น้ำ (200 kcal) ข้าวกล้อง (110 kcal)
    มื้อกลางวัน: สปาเก็ตตี้ขี้เมาอกไก่ (550kcal)
    ตอนกลางวัน : มันฝรั่งนึ่ง ฟักทองนึ่ง (40 kcal)
    อาหารเย็น: แกงจืดเต้าหู้หมูสับวุ้นเส้น (120 kcal)
  • วันที่ 17 เช้า : ผัดผัก (220 kcal) ข้าวกล้อง (110 kcal) ไข่ดาว (160 kcal)
    มื้อกลางวัน: อกไก่ผัดพริก (300 กิโลแคลอรี), ข้าวกล้อง (110 กิโลแคลอรี)
    ตอนกลางวัน ลูกตาลลอยแก้วเติมน้ำเชื่อมเล็กน้อย (150 kcal)
    อาหารเย็น เมี่ยงปลาเผา (200 kcal)
  • วันที่ 18 เช้า : โจ๊กกุ้ง (200 kcal) น้ำส้ม (40 kcal) อาหารกลางวัน: แกงส้มกุ้ง (120 กิโลแคลอรี), ข้าวกล้อง (110 กิโลแคลอรี), ไข่ต้ม 1 ฟอง (80 กิโลแคลอรี) ระหว่างวัน: ขนมปังปิ้งกับโยเกิร์ตโรยด้วยอัลมอนด์ (300 kcal) อาหารเย็น : สลัดโรล (240 kcal), นมพร่องมันเนย (70 kcal)
  • วันที่ 19 เช้า: สมูทตี้ผักรวม ผักโขมแช่แข็ง กล้วย นมสด น้ำผึ้ง (200 kcal)
    มื้อกลางวัน: เส้นหมี่ผัดซีอิ๊วและอกไก่ (450 kcal)
    ในระหว่างวัน: สลัดทูน่าโฮลเกรนหนึ่งถ้วยเล็ก (200 กิโลแคลอรี)
    อาหารเย็น: สลัดผลไม้ น้ำโยเกิร์ต (200 กิโลแคลอรี) ไข่ต้ม 1 ฟอง (80 กิโลแคลอรี)
  • วันที่ 20 เช้า : แซนด์วิชอกไก่ย่างกับผัก (270 kcal)
    อาหารกลางวัน: บรอกโคลีผัดน้ำมันหอย (200 กิโลแคลอรี), ข้าวกล้อง (110 กิโลแคลอรี), ไข่ต้ม (80 กิโลแคลอรี)
    ระหว่างวัน : กล้วย 2 ลูก (240 kcal)
    อาหารเย็น: สลัดข้าวโพด (90 กิโลแคลอรี), ไข่ต้ม (80 กิโลแคลอรี), นมไขมันต่ำ (70 กิโลแคลอรี)
  • วันที่ 21 เช้า: โยเกิร์ตไขมันต่ำ กราโนล่า กีวี (250 กิโลแคลอรี)
    มื้อกลางวัน: ยำลูกชิ้นปลา (100 kcal), ข้าวกล้อง (110 kcal), ไข่ต้ม (80 kcal)
    ระหว่างวัน : มันเทศนึ่ง (40 kcal) นมสด 1 กล่อง (100 kcal)
    อาหารเย็น : ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนหมูสับ (300 kcal) ผลไม้ (100 kcal)

ตารางลดน้ำหนัก สัปดาห์ที่ 4

มาถึงเมนูลดน้ำหนักของสัปดาห์สุดท้ายแล้ว จะเห็นได้ว่าร่างกายเริ่มชินกับอาหารลดน้ำหนักที่ไม่มันและไม่หวานกันแล้วใช่ไหมคะ? สำหรับสัปดาห์นี้ก็ไม่น้อยหน้าสัปดาห์อื่นๆ มีเมนูอร่อยเพียบ! ทั้งสลัดแซลมอน ข้าวหน้าหมูอบน้ำผึ้ง กะเพรากุ้ง และข้าวหน้าแซลมอน

รายละเอียดแคลอรี่ในแต่ละเมนู (โดยประมาณ)

  • วันที่ 22 เช้า: ไข่กระทะ (250 kcal) ขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น (250 kcal)
    มื้อกลางวัน : ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำกระเทียมเจียว (250 kcal)
    ระหว่างวัน : ผลไม้ (100 kcal)
    อาหารเย็น : สลัดปลาแซลมอน (300 kcal)
  • วันที่ 23 เช้า : กาแฟดำ (90 kcal) แซนวิชแฮม (240 kcal)
    มื้อกลางวัน: ข้าวปลาแซลมอนย่างเกลือ (250 kcal)
    ระหว่างวัน : โยเกิร์ต กราโนล่า น้ำผึ้ง (200 kcal)
    อาหารเย็น: ยำวุ้นเส้น (160 kcal), นมถั่วเหลืองไม่ใส่น้ำตาล (70 kcal)
  • วันที่ 24 เช้า : นมถั่วเหลืองท็อปปิ้งไม่ใส่น้ำตาล (120 kcal) ขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น (250 kcal)
    อาหารกลางวัน: สเต็กไก่พริกไทยดำ (300 กิโลแคลอรี) ผักนึ่ง (70 กิโลแคลอรี)
    ระหว่างวัน: ข้าวปั้นแซลมอน 1 ชิ้น (200 kcal)
    อาหารเย็น: สลัดอกไก่ย่าง (250 kcal) ผลไม้ (100 kcal)
  • วันที่ 25 เช้า : อะโวคาโดโทสต์ (220 กิโลแคลอรี), แซลมอนรมควัน (120 กิโลแคลอรี), น้ำส้ม 1 แก้ว (40 กิโลแคลอรี)
    มื้อกลางวัน: ข้าวหมูอบน้ำผึ้ง (380 kcal)
    ระหว่างวัน : ผลไม้ (100 กิโลแคลอรี) นมพร่องมันเนย (70 กิโลแคลอรี)
    อาหารเย็น : ซุปไก่มะเขือม่วงมันฝรั่ง (130 kcal)
  • วันที่ 26 เช้า: มูสลี่ผลไม้ โยเกิร์ตไขมันต่ำ (350 kcal)
    อาหารกลางวัน: น้ำเกรวี่หมูหมักกับผัก (400 kcal)
    ตอนกลางวัน : บัวลอยน้ำขิง ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ผัดหมี่ (160 kcal)
    อาหารเย็น: แกงเลียงกุ้งสด (115 kcal) ข้าวกล้อง (110 kcal)
  • วันที่ 27 เช้า : โจ๊กหมูสับไข่ลวก (250 kcal)
    มื้อกลางวัน: กุ้งผัดกะเพรา (150 kcal), ข้าวกล้อง (110 kcal), ไข่ต้ม (80 kcal)
    ระหว่างวัน : เฉาก๊วยไม่ใส่น้ำตาล (80 kcal) นมพร่องมันเนย (100 kcal)
    เย็น: สุกี้เส้นบุกทะเล (280 kcal)
  • วันที่ 28 เช้า : แซนวิชสลัดไข่ (180 kcal)
    อาหารกลางวัน: เนื้อสันในไก่ย่าง (220 กิโลแคลอรี), ข้าวกล้อง (110 กิโลแคลอรี), ซุปใส (100 กิโลแคลอรี)
    ระหว่างวัน : มันเทศ (90 kcal)
    อาหารเย็น : ไข่ตุ๋นอกไก่ (320 kcal), ฟักทองนึ่ง (40 kcal)
  • วันที่ 29 เช้า : ทูน่าแรป (200 kcal), น้ำผลไม้ (80 kcal)
    มื้อกลางวัน: ข้าวไข่ข้นกุ้งสด (250 kcal)
    ระหว่างวัน: ขนมปังโฮลวีตราดโยเกิร์ต สตรอว์เบอร์รี่ + เบอร์รี่ (300 kcal)
    อาหารเย็น: สเต็กปลาย่าง ผักต้ม (200 kcal)
  • วันที่ 30 เช้า ข้าวยำ (160 kcal) ไข่ต้ม 1 ฟอง (80 kcal)
    มื้อกลางวัน: ต้มยำกุ้ง (100 kcal), ข้าวกล้อง (110 kcal)
    ในระหว่างวัน: โยเกิร์ตไขมันต่ำพร้อมผลไม้ (200 กิโลแคลอรี)
    อาหารเย็น : น้ำพริกเผา (100 kcal) ปลาทูทอด (200 kcal) ไข่ต้ม (80 kcal) ข้าวกล้อง (110 kcal)